ลองมาคิดทบทวนกันดูกันหน่อยดีกว่าว่า กำลังเกิดอะไรขึ้นกับโลกของเรา และป่าของเรา? แล้วการกินของเราเกี่ยวอะไรด้วย?
ทุกวันนี้โลกของเรามีอุตสาหกรรมการเลี้ยงสัตว์เพื่อมาเป็นอาหารอันโอชะเพื่อมนุษย์มากมาย เพื่อให้พอดีกับความต้องการของคนทั้งโลก ซึ่งการเลี้ยงสัตว์เหล่านั้น ไม่ว่าจะเป็น วัว หมู หรือไก่ก็ตาม จะต้องใช้พื้นที่โล่งกว้างถึง 30% ของพื้นที่บนโลกเลยทีเดียว
ถ้าหากเปรียบเทียบให้เข้าใจได้ง่ายขึ้นก็คือ ในทุกๆ 1 ชั่วโมงป่าไม้ของเรากำลังถูกทำลายไปถึง 4,000 สนามฟุตบอล! เพียงเพื่อต้องใช้พื้นที่ในการผลิตเนื้อสัตว์มาให้คนกิน! มากไปกว่านั้นพื้นที่หน้าดินกว่า 20% ของทุ่งหญ้าที่ใช้เลี้ยงสัตว์นั้นได้ถูกทำลายไปอย่างมาก สาเหตุเกิดจากการที่สัตว์กินหญ้าที่คลุมหน้าดินมากเกินไป จนทำให้หน้าดินเสื่อมสลายใช้การไม่ได้อีก ซึ่งทำให้เจ้าของฟาร์มในหลายๆพื้นที่ต้องย้ายฟาร์มไปเรื่อยๆ !
"เมื่อป่าไม่มี จึงทำให้เกิดความไม่สมดุลทางธรรมชาติ ระบบการหมุนเวียนของน้ำถูกทำลาย แหล่งผลิตอากาศบริสุทธิ์ของโลกเราก็ค่อยๆหายไป ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อน"
ความเป็นจริงที่เกิดขึ้นอยู่ขณะนี้คือ โลกของเรามีจำนวนประชากรที่มากจนเกินไป จึงทำให้มีปริมาณความต้องการในการบริโภคเนื้อสัตว์มากเกินกว่ากำลังผลิตที่จะรองรับความต้องการได้ ทำให้ทรัพยากรธรรมชาติหลายๆอย่างต้องถูกทำลายเพื่อความต้องการของมนุษย์เรา
ดังนั้นเราสามารถเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยกันลด Demand และป้องกันไม่ให้ป่าไม้ของเราถูกทำลายมากไปกว่านี้ได้ โดยการเริ่มต้นจากการเปลี่ยนแปลงตัวเองด้วยวิธีง่ายๆ แค่งดการกินเนื้อสัตว์ทุกๆวันจันทร์ หันมากินผักให้มากขึ้น เท่านี้โลกของเราก็จะน่าอยู่ขึ้นอีกด้วยนะ :)
#meatlessmondayth เริ่มเลยรออะไร!
ที่มา: Fight Deforestation With Your Fork, Meatless Monday